รอบนี้ไป 100429-100502เป็นช่วงโกเด้ลวีคของญี่ปุ่นพอดี คงต้องทำใจเรื่องคนเที่ยวกันเยอะหน่อย
ออกจากไทยตอน ห้าทุ่มครึ่งสายการบินไทย ได้เครื่องที่มีทีวีติดทุกที่นั่งด้วย นั่งดูเจ้าชายกบไปโฮะๆๆ หนังเค้าเร็วจริง พึ่งเข้าฉายโรงเองนี่นา ถึงสนามบินคันไซตอนประมาณ 6.20 เวลาดีมาก(เวลาญี่ปุ่น ถ้าไทยตอนนี้คง ตีสี่ครึ่ง) ตรวจคนเข้าเมืองแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากที่รับกระเป๋าก่อนเจ็ดโมงนิดหน่อยต้องรอเค้าเตอร์ขายตั๋ววันของ kansai thru pass เปิด ตอน 7 โมงซื้อตั๋ว kansai thru pass แบบสามวัน 5000 เยน ตั๋ว kansai thru pass นี้ใช้แบบไม่ต้องวันติดกันได้ ทริปนี้ 4 วันเลยกะว่าวันศุกร์ จะซื้อตั๋ววันของ subway osaka 600 เยนเนื่องจากวันศุกร์เป็นวัน no car day เค้าเลยลดราคาจากปกติ 800 เยนหรือไรไม่แน่ใจ การซื้อตั๋ววัน subway osaka ก็ไปกดได้ที่ตู้กดตั๋วเลย ถ้ากดไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่กดให้ก็ได้
ออกจากสนามบิน นั่ง nankai line ของบริษัทรถไฟใต้นั่งได้แค่ airport express แต่ limited express นั่งไม่ได้ถ้านั่งต้องเสียเงินเอง ออกจากสถานีที่สนามบินตอนรถเที่ยว 7.39 ถึงสถานี tengachaya ตอน 8.20 จาก tengachaya ต่อไปอีก 1 สถานีไปลงสถานี Dobutsuen-mae ออก exit 3(เยื้องโรงแรมนิด เดียว) หรือ exit6(มีลิฟท์)รอบนี้เชคอินแล้วเข้าห้องได้เลยแฮะ ปกติ ไปช่วงซากุระ คงฟีค ตอนนี้โรงแรมคงว่าง เลยเข้าได้เลยดีจัง
100429
วันนี้ตั้งใจไปวัดโทฟุคุจิ แล้วก็แถวๆ เมืองอุจิ จะไปวัดโดเบียวอิน กับ พิพิทธภัณฑ์เกนจิ ที่เกียวโต
ไปวัดโทฟุคุจิ ที่เกียวโตออกจากโรงแรมรอบนี้ลองนั่งสาย Keihan Main Line ดูบ้าง แต่รถสายนี้นั่ง Limited express ไม่ได้ นั่งได้แค่ Rapid Express เลยนานหน่อย ออกจากสถานี yodobashi 10.12 ถึงสถานี tofukuji 11.25 (นั่งหลับ เลย สถานีไปสถานีหนึ่งอะ -_-!! )ออกจากสถานี เดินไปทางซ้าย สักพักจะมีซอยที่มีป้ายชื่อวัด -_-! ถ้าอ่านไม่ออกทำไงฟระ พอเดินเข้าซอย นั้นไปถึงเจอแผนที่ -_-! (เที่ยวคราวหน้า ควรหาแผนที่จากสถานีเดินไปวัดด้วยไม่ใช่หาแต่ว่าวัดลงสถานี ไหน.... กรรม..... ดีนะ อ่านออกนิดหน่อย)
เจอทางเข้าวัดแล้วแต่ดูเหมือนเราจะเข้าทางด้านข้างกันนะ

มองจากสะพานนี้ไปเห็นสะพาน Tsuten-kyō ด้วย
ซึ่ง ถ้าเป็นฤดูใบไม้ร่วง ตรงนี้จะเป็นสีแดงไปหมดเลยหละ
เพราะ tofukuji จะเป็นที่นิยมมากในฤดูใบไม้ร่วง
Tofukuji เป็นวัดพุทธแบบเซน อยู่ที่ Higashiyama-ku ในเมืองเกียวโต ถูกสร้างโดย Kujo Michiie ในปี 1236 เริ่มแรกเป็นโรงเรียนให้ Rinzai เป็นโรงเรียนของวัดพุทธแบบเซน ถูกออกแบบสร้างให้เหมือนวัด ในนารา แม้กระทั่งชื่อก็ล้อมาจาก วัด kofuku ji ที่นารา วัดนี้เป็นหนึ่งใน 5 วัดเซนที่ยิ่งใหญ่แห่งเกียวโตที่ เรียกว่า Kyoto Gozan (京都五山) (ห้าวัดมี Tenryū-ji, Shōkoku-ji, Kennin-ji, Tōfuku-ji แล้วก็ Manju-ji) จริงมันมี 10 วัดที่ใหญ่นะ(เรียกว่า Jissetsu ) แต่ 5 วัดในเกียวโต อีก 5 วัดอยู่ที่คามาคุระ Kamakura Gozan (鎌倉五山)(ห้าวัดในคามาคุระ Kenchō-ji, Engaku-ji, Jufuku-ji, Jōchi-ji แล้วก็ Jōmyō-ji) คำว่า Gozan นี้เค้าก็เรียกกันอีกแบบว่า 5 ขุนเขา (Five Mountains)
ที่วัดนี้ ประตูใหญ่ (Sanmon) เป็นประตูที่เก่าที่สุดในญี่ปุ่นเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นด้วย
เนื่องจากไม่ได้เข้ามาทางด้านหน้าของวัด เลยไม่ได้ถ่ายรูปด้านหน้าประตูใหญ่ -_-!! แล้วทำไมไม่ไปถ่ายฟระ
ทีนี้เราก็จะไปสะพาน Tsuten-kyō ที่เห็นกันมะกี้หละ เป็นสะพานขึ้นชื่อสำหรับฤดูใบไม้ร่วง ซิกๆๆ ตอนนี้ผลิอะ
ตั้งแต่ทางเข้าสะพาน ทซึเทน เคียว นี้ต้องเสียเค่าเข้าอีก 400 เยนนะ แต่ว่า ขอบอกวัดญี่ปุ่น ตรงไหน เสียค่าเข้า ตรงนั้นแหละ ไฮไลด์เลย เข้าไปแล้วสวยมากจริงๆ นะ
จ่ายเงินเข้ามา ก็ โอ้วววววววว ความเขียวอร่าม สีของใบเมเปิ้ลตอนเขียวๆ ก็สวยนะ เป็นสีเขียวอ่อน แสงทะลุลงมาแล้วสวยมากเลย
ภายในสวน เดินแบบยังไม่ข้ามสะพาน

กลับไปที่สะพาน Tsuten-kyō กันเถอะ สะพานสุดฮิตดูใบไม้แดง ต้นเมเปิ้ลเยอะมากกก ใบไม้แดงคงคงสวยน่าดู
มองจากสะพาน Tsuten-kyō ย้อนกลับไปสะพานที่เราข้ามมาตอนเข้าวัด
เห็นแล้วเครียด อยากมาตอนใบไม้แดงงงงงงงงง
จากสะพาน เดินต่อทางเดินไป Kaizandō

ในนั้นมีสวนหินด้วย
สวนหิน Kaizandō คนที่เป็นเซน เค้าคงนั่งจ้องสวนหินแล้วบรรลุ อะนะ แต่เรา มานั่งกินข้าวปั้นกลางวัน ด้วยความสงบระหว่างนั้น มีเสียงพระสวดด้วย ดูขลังเชียว
ก่อนกลับ แวะเดินสวนมองย้อนมาสะพาน Tsuten-kyō
ไปวัด เบียวโดอิน ต่อเลย อยู่ไม่ไกลกันมากนัก
วัด byodo in วัดหลังเหรียญ 10 เยน

เป็นวัดที่ได้รับยกย่องเป็นมรดกโลก ในฐานะความทรงจำแห่งเกียวโตอยู่ที่เมืองUji ในเกียวโต
ที่เมืองนี้ทัวร์ญี่ปุ่นเยอะมาก เรียกว่ามาไม่ขาดสายเลยทีเดียว แต่มีแต่ลุงๆ ป้าๆ ญี่ปุ่นแฮะ ที่มากับทัวร์ คงเพราะเมืองอุจิเป็นเมืองแห่งตำนานฮิคารุ เกนจิ มั้ง ฮิคารุ เกนจิ เป็นเหมือนนิยายเค้าเรียกคำนี้ไหม อะ นิยายชื่อดังมากกกกของญี่ปุ่นโบราณ โดนในนิยายเขียนว่าอยู่ที่เมืองอุจิ นี่แหละ ตามทางเดินเลยมีรูปปั้น ท่านฮิคารุ เกนจิด้วยด้วย
ไม่ไหวถ่ายรูปยากอะ คนเยอะ พอทัวร์นี้มุงๆ เสร็จ ทัวร์กรุ๊ปต่อไปก็เข้ามาเลย
เป็นเมืองที่ดูแล้วน่านั่งพักผ่อนหย่อนใจจริงๆ บรรยกาศสบายๆ กินปิกนิกกัน วันนั้นมีชายคนนึงเป่าแซกโซโฟนด้วย ตอนแรกเดินไประหว่างทางก็ได้ยินเสียงเพลง ก็นึกว่า เปิดเทป แต่พอเดินไปเจอตัวคนเป่า โอ้ วววว เค้าเป่าเพราะมากอะ เสียงดังมากด้วย แต่เพลงเพราะจริงๆ นะ แนวแบบ right here waiting อะไรอย่างนั้น มันเลยทำให้บรรยากาศดีขึ้นมากเลยเชียว กับการที่ครอบครัวนั่งกินปิกนิกกัน


ทางเข้าวัดมีดอก wistaria อยู่ แต่ยังไม่บานเต็มที่อะ เสียดายจัง ปกติจะบานปลายเมษา ต้นพฤษภา แต่ปีนี้ ยังไม่บานเต็มที่แฮะ ถ้าเต็มที่มันจะย้อยลงมาเป็นสีม่วงสวยงามน่าดู
เบียวโดอิน สร้างปี 998 สมัยเฮอัน ในตระกูล ฟูจิวาระ ของท่าน พูจิวาระ โนะ มิชินากะ ตอนแรกสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศ นอกเมือง ของทางฟูจิวาระ โนะ มิชินากะ ตอนหลังจึงสร้างต่อเติมเป็นวัดพุทธในปี 1052 สมัยของ ฟูจิวาระ โนะ โยริมิชิ ตัววัดที่มีชื่อเสียงที่สุดเป็นส่วนของหอหลัก เรียกว่าหอฟินิกซ์ the Phoenix Hall (鳳凰堂 hōō-dō) หรือหออมิดะ Amida Hall ที่สร้างขึ้นในปี 1053 โดยเป็นเสมือนห้องพระของตระกูลฟูจิวาระ ในส่วนของหอหลัก (Main hall) นี้ ตรงกลาง มีพระพุทธรูป อะมิดะ อยู่ (ก็คือพระพุทธรูปบ้านเรานะแหละแต่เป็นสไตล์ ญี่ปุ่น)ทำจากไม้สนญี่ปุ่นแล้วปิดด้วยทองนั่งอยู่ในดอกบัว สูงสามเมตรจากหน้าถึงเข่า ที่ หลังคามี นกฟินิกซ์อยู่ สองตัว เนื่องจากประวัติอันยาวนานนับพันปีของวัดนี้ญี่ปุ่นจึงให้มีรูปวัดนี้อยู่ที่เหรียญ 10 เยน แล้วรูปนกฟินิกซ์คู่ บนหลังคาวัดไว้ที่แบงค์ 10000 เยน
ตระกูลของฟูจิวาระนี้ เมื่อก่อนยิ่งใหญ่จริงๆ นะ เนี้ย
ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ให้ดูด้วยเข้าดูได้ฟรี จริงๆ ไม่ฟรีซินะเพราะเสียค่าเข้าวัดตั้ง 600 เยนแล้ว แต่ข้างใน พิพิธภัณฑ์ทำดีมาก มีรูปสลัก มีนกฟินิกซ์รูปปั้นต่างๆ ให้ดูหมด คาดว่าจำลองมาจากของในวัดตรงหอ ฟินิกซ์นั้นแหละ ซึ่ง จะเข้าไปดูที่หอฟินิกซ์นี้ต้องเสียค่าเข้าอีก แล้วก็ต่อคิวยาวเยียดด้วย เลย ไม่เข้าซะงั้น แต่อย่างที่บอก ว่า ของดีเค้าจะอยู่ที่ต้องเสียเงินเพิ่มเสมอ เพราะแอบดูกล้องแม่ลูกคู่นึง เข้าไป เค้ากดรูปดูกัน เราเลยแอบเหล่ดูตาม โอ้ววววว สวยมักๆ เพดาน อะไรก็มีรูปสลักสวยงามมักมากกกกก เสียดาย
ใครบอกที่ว่านักฟินิกซ์นี้มันหันมามองกล้องรึเปล่าอะ -_-!! มันควรจะหันไปหาคู่มันอีกด้านของหลังคาเซ่ หรือช่วยบอกทีว่ามุมตกกระทบของแสงทำให้มองผิด จริงๆ มันไม่ได้หันมาหรอกนะ

ที่เมืองอุจินี้ ดังเรื่องชาเขียวอะ ได้กินไอติมชาเขียวด้วย อร่อยยยยยยมากก กินเสร็จนึกได้ลืมถ่ายรูป ฮ่าๆๆๆ กรวยใหญ่นะกรวยละ 300 เยน แง๊ อยากกินอีก
ครั้งนี้ไปเที่ยวถ่ายรูปยากมากเลยเพราะต้องถ่ายย้อนแสงตลอด รูปเลยออกมาไม่ชัดเลย เห้อ...
ออกจากวัด ก็จะไปพิพิธภัณฑ์เกนจิอะ แต่เดินหาอยู่ไม่เจอ แล้วก็อีกชั่วโมงจะได้เวลาปิดพิพิธภัณฑ์เลยกลับ ดีกว่า
ตอนกลับก็กลับ rapid express 16.55 ถึงโดโยบาชิ 17.41
ไปช๊อปปปป ที่นัมบะ กรี๊ด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น